วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2553

ประวัติหมาไทยสายพันธุ์บางแก้ว


หมาไทย
ประวัติโดยย่อ เป็นสุนัขไทยพันธุ์หนึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัด พิษณุโลก ประเทศไทยที่มาของสายพันธุ์นั้นเกิดจากความบังเอิญที่สุนัขเพศเมียสีขาวดำของท่านเจ้าอาวาสวัดบางแก้วได้ไปผสมพันธุ์กับสุนัขป่า และได้ให้กำเนิดลูกสุนัขครอกหนึ่งซึ่งถือเป็นต้นตระกูลของสุนัขพันธุ์บางแก้วในปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2500 ได้มีการร่วมกันพัฒนาและกำหนดมาตรฐานแห่งสายพันธุ์ขึ้น เพื่อจะให้มีลักษณะประจำพันธุ์เป็นเอกลักษณ์ที่แน่นอน อันเป็นที่มาแห่งสายพันธุ์บริสุทธิ์ในปัจจุบันสุนัขพันธุ์บางแก้วถือว่าเป็นมรดกอันล้ำค่าของจังหวัดพิษณุโลก ชาวบ้านนิยมเลี้ยงกันแทบจะทุกครัวเรือน ปัจจุบันมีผู้นิยมนำไปเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาคของประเทศ
ลักษณะทั่วไป : เป็นสุนัขขนาดกลาง โครงสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลืน ประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการเลื่อนไหวที่คล่องแคล่วสัดส่วนที่สำคัญ ความยาวของลำตัว : ความสูงที่ไหล่ = 1: 1ความลึกของหน้าอก : ความสูงที่ไหล่ = 1: 2พฤติกรรม / อารมณ์ตื่นตัว ร่าเริง รักเจ้าของ เชื่อมั่นในตัวเอง จิตประสาทมั่นคง ไม่ขลาดกลัว ซื่อสัตย์ หวงแหนทรัพย์สิน ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ สามารถฝึกใช้งานได้หัว ส่วนหัว กะโหลก : ค่อนข้างใหญ่ ได้สัดส่วนกับลำตัวสต็อปหน้า : มีมุมหักเล็กน้อยส่วนใบหน้าจมูก : สีดำ ขนาดได้สัดส่วนกับปากสันจมูก : ตรงและยาวพอสมควรกรวยปาก : ยาวปานกลาง โคนปากใหญ่เรียวจรดปลายจมูกริมฝีปาก : แนบสนิท มีสีเข้มปาก : มีสีขาวรอบกรวยปาก (เรียกว่า ปากคาบแก้ว) เป็นที่พึงประสงค์ขากรรไกร: ขบกันแนบสนิทแบบกรรไกร (Scissor Bite) โดยปลายฟันหน้าด้านล่างแตะโคนด้านในของฟันบน อนุโลม ให้ฟันๆ ขบ เสมอกันพอดี (Level Bite) ฟัน : เล็ก และแหลมคม สุนัขโตควรมีฟันครบ 42 ซี่ตา : เล็กคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ (Almond) มีสีดำและสีน้ำตาลหู : เป็นรูปสามเหลี่ยม มีขนาดเล็กได้สัดส่วนกับหัว ตั้งป้องไปข้างหน้า มีขนอ่อนที่กกหูและหลังใบหูคอ : ใหญ่ ล่ำสัน รับกับหัว และช่วงไหล่มีแผงขนยาวรอบคอ
ลำตัว หลัง : เส้นหลังตรงเอว : แข็งแรงและกว้างบั้นท้าย : ใหญ่และแข็งแรง ส่วนหลังมีขนยาวลามมาจนถึงข้อขาหลังท่อนบนอก : กว้าง และลึกได้ระดับเดียวกับข้อศอก โครงกระดูกหน้าอกมีลักษณะเป็นรูปวงรีเส้นล่าง : ท้องเว้าไม่มากหาง : โคนหางใหญ่ ขนหางเป็นพวง ปลายโค้งเข้าหาเส้นหลัง
ขา ช่วงหน้า ไหล่ : ลาดเอียงพอประมาณและมีกล้ามเนื้อแข็งแรงขาหน้า : ใหญ่กว่าขาหลัง เวลายืนเหยียดตรง และขนานกัน หลังขามีขนยาว ลักษณะคล้ายแข้งสิงห์ข้อขาหน้า : ข้อเท้าสั้นทำมุมเฉียงเล็กน้อยเท้า : อุ้งเท้ากลมคล้ายอุ้งเท้าแมว มีขนยาวคลุมนิ้วเท้า
ช่วงหลังขาหลัง : เล็กกว่าขาหน้า เวลายืนทำมุมพอเหมาะข้อเท้า : ทำมุมพอเหมาะกับหัวเข่าข้อขาหลัง : ตั้งได้ฉากกับพื้น มองทางด้านหลัง ขนานกันเท้า : อุ้งเท้ากลมคล้ายอุ้งเท้าแมว มีขนยาวคลุมนิ้วเท้าการย่างก้าว : คล่องแคล่วและทรงพลัง มองด้านข้าง ขาหน้าและหลังสอดประสานอย่างกลมกลืนเส้นหลังตรงระนาบ หัวและหางชู ขึ้นอย่าสวยงาม มองทางด้านหน้า ขาหน้าและขาหลังไม่แสดงอาการปัดหรือแกว่ง
ขนและสีขน : ยาวปานกลาง มี 2 ชั้นๆในละเอียดนุ่ม ชั้นนอกเส้นใหญ่เหยียดตรง ยาวคลุมบริเวณแผ่นหลังสี : ขาว – น้ำตาล, ขาว – ดำ, ขาว – เทาขนาด : ความสูงที่เหมาะสม วัดที่ไหล่ : เพศผู้ 19-21 นิ้ว (46-56 ซม) : เพศเมีย 17-19 นิ้ว (41-51 ซม) อนุโลมให้ขาด-เกินได้ หนึ่งนิ้ว (2.5 เซนติเมตร)
ข้อบกพร่อง- ตา หรือ จมูกมีสีอ่อน- หางไพล่- ไม่มีแผงขนรอบคอ- ไม่มีแข้งสิงห์- หูใหญ่- ปากใหญ่- ตากลมโต- หลังโก่ง- หลังแอ่น- ขนาดใหญ่ – เล็ก เกินกว่ามาตรฐานกำหนด
ความบกพร่องที่ต้องคัดออก- ขนสั้นเกรียน- หางกุด- หูไม่ตั้ง- ฟันบนยื่นล้ำฟันล่าง (Overshot), ฟันล่างยื่นล้ำฟันบน (Undershot)- ฟันขาดเกิน 3 ซี่- หางม้วนงอ- หางไม่เป็นพวง- ความผิดปกติทางจิตประสาท
หมายเหตุ : ชาวอังกฤษเลยให้ชื่อว่า Siam Dog